เขื่อนรัชชประภา / เขื่อนเชี่ยวหลาน – สุราษฎร์ธานี
เขื่อนรัชชประภา ตั้งอยู่ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เดิมชื่อเขื่อนเชี่ยวหลาน เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จประกอบรัฐพิธีเปิดเขื่อนเชียวหลานและโรงไฟฟ้าพลังน้ำ พร้อมพระราชทานนามใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร” เนื่องจากวัตถุประสงค์หลักของการสร้างเขื่อนคือการผลิตกระแสไฟฟ้า แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศภายในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเราเรียกว่าทะเลสาบเชี่ยวหลาน ประกอบด้วยเทือกเขาหินปูนที่เรียงรายสูงต่ำสลับซับซ้อนกับผืนน้ำสีเขียวมรกต ท้องฟ้าสีครามกับสายหมอกลอยปกคลุมยอดเขาในบางช่วงบางฤดู ก่อกำเนิดกิจกรรมการท่องเที่ยวภายในทะเลสาบเชี่ยวหลาน ทั้งนั่งเรือชมทัศนียภาพ พักแพลอยน้ำ พายคายัค ส่องสัตว์ และอีกมากมาย จนปัจจุบันที่นี่เป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจที่จะมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 1 ของแผ่นดินใหญ่สุราษฎร์ธานีไปแล้ว
เขื่อนรัชชประภา หรือที่ใคร ๆ รู้จักกันดีว่า “เขื่อนเชี่ยวหลาน” อันเป็นชื่อดั้งเดิม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเขื่อนรัชชประภาในปัจจุบัน อันเป็นชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง สำหรับตัวเขื่อนรัชชประภานั้น เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวอเนกประสงค์ สูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร ทะเลสาบเหนือเขื่อนก็เต็มไปด้วย ภูเขาหินปูนธรรมชาติที่มีรูปร่างต่าง ๆ แปลกตา และเมื่อธรรมชาติได้จัดวางผืนน้ำเคียงข้างกำแพงแห่งขุนเขาหินปูนได้อย่างลงตัวราวกับบรรจงสร้างมาอย่างไรอย่างนั้น ได้ทำให้ที่นี่กลายเป็นโลกใบใหม่ที่ห่มคลุมด้วยความสงบงาม กิจกรรมน่าทำ นอนเล่นชมทะเลสาบกลางแพ นั่งอ่านหนังสือเล่มโปรด ฟังเพลงเบา ๆ ล่องเรือชมธรรมชาติเหนือเขื่อน ชมเขาสามเกลอ หนึ่งในไฮไลท์ของภูเขาหินปูนที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำ พายเรือคายักหรือแคนู ซึ่งที่พักบางแห่งจะจัดไว้บริการนักท่องเที่ยว เช่น หน่วยพิทักษ์นางไพร โตนเตย และไกรสร มีเรือแคนูให้เช่า ราคา 200 บาท/วัน ท่องถ้ำน้ำทะลุ ซึ่งเป็นถ้ำที่อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ 6 กิโลเมตรโดยทางเท้า จัดเป็นถ้ำใหญ่ที่มีธารน้ำไหล มีหินงอกหินย้อยที่งดงาม การเดินเที่ยวถ้ำจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง