P058 – เที่ยวใต้ได้ครบ ทะเล ภูเขา น้ำตก ไปนครฯ ดูโลมาสีชมพู+ไหว้ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ ไปสุราษฯ นอนเขื่อนเชี่ยวหลาน+ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด 3วัน2 คืน จัดแบบส่วนตัว

Description

P058 – เที่ยวใต้ได้ครบ ทะเล ภูเขา น้ำตก จัดแบบส่วนตัว ( Private Tour )

นครศรีธรรมราช โลมาสีชมพู ไหว้ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ + สุราษฏร์ธานี เขื่อนเชี่ยวหลาน  ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด 3วัน2 คืนไม่เหมือนใคร

ไทยท็อปทัวร์นำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยวแบบไม่ซ้ำใครอยู่เสมอๆทำให้ผู้คนใช้บริการด้วยดีตลอดมาทำให้ทางเราต้องหาสิ่งใหม่ๆให้กลุ่มลูกค้าของเราที่ต้องการเที่ยวเราและใช้บริการทีมงาน ไทยท็อปทัวร์ เป็นเครื่องหมายการันตีของคุณภาพ ที่ทุกคนให้ความมั่นใจเราคิดค้นโปรแกรมแบบส่วนตัว ให้เที่ยวกันแบบสบายๆเน้นคุณภาพทุกการบริการ ให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบายตั้งแต่วันเริ่มของการเดินทางจนจบทริป ไทยท็อปทัวรื ไม่เคยหยุดนิ่งคิดค้นการท่องเที่ยวแบบมีสไตล์ อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ทุกคนได้เลือกเหมาะสมกับเวลาและงบประมารของแต่คนแตกต่างกันไป สำหรับทริปนี้เป็นอีกที่เราภาคภูมิใจที่ผู้ใช้บริการเลือกเป็นการพักผ่อนในโอกาสพิเศษๆมาอยู่ตลอดเวลา

วันที่ 1 ของการเดินทาง กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช ไหว้พระบรมหาธาตุ ไหว้ศาลหลักเมือง – พักขนอม

07.30 พนักงาน ไทยท็อปทัวร์ รอต้อนรับท่านที่สนามบินนครศรีธรรมราช  เช็คสัมภาระเรียบร้อยออกเดินทางกันครับ ก่อนเริ่มทัวร์มื้อเช้าเราต้อนรับด้วยอาหารเช้าแบบพื้นบ้านของคนนคอนกันเลยครับ เราไปร้านดังแห่งเมืองคอนกันครับ ร้านโกปี้ รับประกันความอร่อย มีหลากเมนูให้เลือกสั่งตามใจชอบครับ เด็ดๆมาติ่มซำนึ่งสด บากุ๊ดเต๋ ข้าวตมปลา โกปี้ โบราณทานคู่กับปลาท่องโก๋ สังขยา และเมนูอื่นอีกมากมายครับ ทุกคนทานกันเรียบร้อย เราเดินทางไปไหว้ศาลหลักเมือง นครศรีธรรมราช เป็นที่เคารพนับถือของคนนครแล้วยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว และผู้คนทั่วไปมักมาขอโชคลาภ ขอพรหน้าที่การงานให้ราบรื่น เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ทุกท่านที่มากราบไหว้ด้วยครับ  จากนั้นเดินไปไหว้พระบรมหาธาตุนครศรีธรรมราชกันครับ เป็นโบราณสถานที่มีความเก่าแก่ คู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราชมาช้านนาน เป็นที่เคารพนับถือของคนไทยพื้นและผู้คนทั่วไป จากนั้นเดินทางกันต่อไป ไหว้ขอพรไอ้ไข่ วัดเจดีย์ ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองนครศรีฯ ประมาณ 1.30 ชั่วโมงครับ เมืองนครมีของดีมากมายให้ทุกคนกราบไหว้ และไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ เป็นที่เคารพนับถือของผู้คนทั่วประเทศไทย และประเทสเพื่อนบ้านมากราบไหว้ ขอพรกันไม่ขาดสาย บุญบารมีที่ดลบันดาลให้หลายๆคนมากราบไหว้แล้วได้ประสบผลสำเร็จ ก็กลับมาแก้บนกันตามประพณีครับ การไหว้ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ พนักงานไทยท็อปทัวร์ ให้คำแนะนำการสักการะให้ถูกต้องตามพิธี และทุกคนได้ชมความองค์จริงของไอ้ไข่ วัดเจดีย์ กันด้วยครับ ของแท้ต้องมาที่วัดนี้เลยครับ หลังจากขอพรไหว้ไอ้ไข่ เรียบร้อย เราเดินทางกันไปรับประทานอาหารมื้อเที่ยงกันครับ วันนี้เราจัดให้ร้าน ครัวโกโตน อ.สิชล อาหารไทยพื้นบ้านรสเด็ด

13.00 รับประทานอาหารกลางวันกันครับ

14.00 เดินทางกันต่อครับ ไปไหว้ท้าวเวศสุวรรณ ที่วัดสุชล ของพรโชคลาภตามความเชื่อของแต่ละบุคคลครับ จากนั้นเดินทางไปจุดชมวิว เขาพลายดำ จิบ ชา กาแฟ อร่อยๆกันครับพร้อมถ่ายรูปวิวสวยๆ บนเขาหน้าผาริมทะเลกันแบบสบายๆลมพัดเย็นๆใต้ร่มไม้ พร้อมจิงกาแฟไปเรื่อยๆ จากนั้นเดินทางไปเข้าที่พักโรงแรมชายทะเลขนอมครับ โรงแรม ขนอม บีช รีสอร์ท ติดชายหาดทะเลขนอมสามารถเล่นน้ำได้ตลอดเวลาครับ

15.30 เข้าที่พัก ทุกคนพักผ่อนตามอัธยาศัย

18.30 รับทานอาหารมื้อค่ำกันครับ ที่ร้านชื่อดังที่ขนอม

20.30 เดินทางกลับที่พัก

วันที่ 2 นั่งเรือชมโลมาสีชมพู แบบเหมาลำเรือกันครับเฉพาะกลุ่ม เราเท่านั้น- เขื่อนเชี่ยวหลาน

06.00 รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เพราะทัวร์วันนี้ต้องออกแต่เช้า เพื่อชมโลมาสีชมพูก่อนใคร

06.45 ออกเดินทางยังท่าเรืออ่าวเตล็ด เป็นท่าเรือประมงพื้นบ้าน

นำท่านเดินทางไปยัง สะพานไม้อ่าวเตล็ดเป็นสะพานไม้ที่สร้างยื่นลงทะเลเพื่อเป็นท่าเรือขึ้นลงของชาวประมงและสำหรับลงเรือไปชมโลมาสีชมพู สามารถชมวิวทิวทัศน์รอบอ่าวได้อย่างสวยงามกลายเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกับสะพานนี้อยู่บ่อยๆ นอกจากนี้บริเวณอ่าวเตล็ดยังมีให้บริการล่องเรือชมโลมาสีชมพู และเขาหินพับผ้าอีกด้วย นำท่านเดินทางไป ล่องเรือชมโลมาสีชมพู ทะเลขนอมสามารถพบเห็นโลมาสีชมพูได้ง่ายที่สุดและอยู่ในระยะใกล้ฝั่งมากไม่ต้องนั่งเรือไปหาให้ไกลถึงกลางทะเล คนเรือบอกว่าที่บริเวณนี้มีเยอะเพราะเป็นจุดที่มีปลาตัวเล็กอาศัยอยู่ ปลาโลมาเลยว่ายมาหาปลากินตลอดโดยสามารถขึ้นเรือได้ที่ แหลมประทับเป็นจุดขึ้นเรือเพื่อไปชมปลาโลมาสีชมพูมาถึงแล้วก็ติดต่อเรือหางยาวกับชาวบ้านได้เลยไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเพราะเรือให้บริการจอดอยู่หลายลำ โปรแกรมท่องเที่ยวคือ ล่องเรือชมโลมาสีชมพู เขาหินพับผ้า และไปนมัสการหลวงปู่ทวด ที่เกาะนุ้ยนอก

ใช้เวลาท่องเที่ยวประมาณ 2-3 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่ล่องเรือควรมาแต่เช้าประมาณ 8 โมง

เพราะเป็นช่วงเวลาที่ปลาโลมาจะออกหาอาหารที่สำคัญไม่ร้อนมาก

***เดือน มกราคม -กันยายน เป็นช่วงที่เหมาะแก่การชมปลาโลมาที่สุด ***

นำท่านชม เขาหินพับผ้า เป็นปรากฎการณ์ที่เห็นได้บนเขาหิน และเกาะบางเกาะในทะเลขนอม บริเวณเกาะถ้ำ หรือ เกาะท่าไร่ลักษณะที่เห็นจะเหมือนเป็นแผ่นหินที่ทับซ้อนเรียงกันเป็นชั้นๆสูงขึ้นไป ด้านบนมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมหลากหลายชนิดเกิดจากกระบวนการหินตะกอนที่มีการตกตะกอนของหินที่มีส่วนประกอบและความแข็งต่างกัน เป็นชั้นๆ ในท้องทะเลต่อมามีการเอียงและยกตัวของเปลือกโลก ชั้นหินดังกล่าวก็เกิดเป็นหน้าผาเมื่อถูกกระแสน้ำและลมกัดกร่อนเอาชั้นที่อ่อนกว่าออกเหลือชั้นที่แข็งแกร่งกว่าก็จะดูเหมือนแผ่นหินที่ซ้อนกันเป็นชั้นเเหมือนขนมชั้น หรือผ้าที่พับไว้ จึงเป็นที่มาของชื่อ ”หินพับผ้า”นั่งเรือผ่านหินชั้นเหล่านี้มองแล้วรู้สึกว่าเป็นอะไรที่สวยงามแปลกตา ทุกคนตื่นตาใจกันแล้ว เราเดินทางกลับท่าเรือ

10.00 ถึงท่าเรือ เดินทางกลับโรงแรมอีกครั้ง อาบน้ำ เปลี่ยน เสื้อผ้า พร้อมทั้ง Check Out

11.30 ออกเดินทางจากที่โรงแรมที่พักมุ่งสู่ท่าเรือเทศบาลเขื่อนรัชประภาใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ระหว่างการเดินทางเราจะแวะทานอาหารมื้อเที่ยงกันที่ ร้านเคียงเล อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฏร์ธานี กันก่อนครับ วันนี้ทานอาหารทะเลสดๆ ที่นี่มาแล้วต้องสั่งหอยนางรมสดๆจากฟาร์ม ครับ ปลากุเลาทอดน้ำปลา ปูทะเลผัดพริกไทยดำ และอีกมากมายเมนู เลือกสั่งได้ครับ รับประทานอาหารเรียบออกเดินทางกันต่อครับ เราแวะให้ทุกท่านได้รับกาแฟกันคนถ้วยได้กินกันหลังอาหารมื้อเที่ยง จากนั้นไม่นานก็ถึงท่าเรือครับ

14.00 เดินทางถึงท่าเรือ เราบริการ ใช้เรือแบบเหมาลำส่วนตัวครับไม่ต้องรอใครทั้งไปทั้งกลับ

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ “เขื่อนรัชชประภา” หรือที่มีชื่อเรียกดั้งเดิมว่า “เขื่อนเชี่ยวหลาน” นำท่านชมสันเขื่อน และบรรยากาศโดยรอบของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนหินผสมแกนดินเหนียวที่มีทัศนียภาพ โดยรอบบริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำสวยสดงดงาม และสงบร่มรื่น เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละกว่า 70,000 คน ให้เดินทางมาเยี่ยมชม นอกจากนี้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึงปีละ 315 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ถือว่าเป็นหัวใจหลักในการส่งเสริมระบบไฟฟ้าในภาคใต้ให้มั่นคงและยืนนานตลอดไป

จากนั้นนำท่านลงเรือหางยาวเพื่อชมทัศนียภาพภายในเขื่อน ท่านจะได้สัมผัสภูเขาหินปูนน้อยใหญ่จำนวนมากมาย ที่ตั้งเรียงรายอยู่ภายในอ่างเก็บน้ำจนได้รับสมญานามว่าเป็น “กุ้ยหลินเมืองไทย” ที่มีความงดงามไม่แพ้กุ้ยหลินที่ประเทศจีน เดินทางถึงแพภูผาวารี กับความงามของผืนน้ำและขุนเขาที่ท่านต้องแอบภูมิใจ ว่า ”นี่แหละความงามในอีกรูปแบบหนึ่งของเมืองไทย”เชิญท่านเข้าห้องพักเก็บสัมภาระ เปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดสวมใส่สบาย

13.30 บริการอาหารกลางวัน ณ แพ เดอะ ลากูน่า เชี่ยวหลาน  หลังอาหารให้ท่านได้เข้าที่พักที่นี้เราบริการห้องพักแบบมีแอร์และห้องน้ำส่วนตัว ให้ทุกคนได้สะดวกสะบาย อิสระ จากนั้นทุกคนพักผ่อนตามอัธยาศัย ที่รีสอร์ททุกคนสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมภายในแพที่พัก ทั้ง กระโดดน้ำจากห้องพัก เล่นน้ำ, พายเรือคายัคกลางลำน้ำที่ใสสะอาดหน้าแพ หรือพายเลาะตามสันเขาได้ตามอัธยาศัย

17.00 นำท่านลงเรือลำเดิม  ล่องเรือชมบรรยากาศ ช่วงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า กับทัศนียภาพภายในเขื่อนรัชประภาสมควรแก่เวลานำท่านกลับสู่แพที่พัก

19.00 บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนแพ จากนั้นเชิญท่านพักผ่อนอัธยาศัยกับบรรยากาศแสนสบายกลางสายน้ำได้ตามอัธยาศัย

วันที่ 3 : เขาสามเกลอ  “กุ้ยหลินเมืองไทย” -พาเที่ยวบ่อน้ำผุดสุราษฎร์ธานี “ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด”  -สนามบิน

07.00 ตื่นรับอรุณที่สดใส จิบกาแฟหอมกรุ่นมองสายหมอกที่ปลายยอดเขายามเช้าและบริการอาหาารเช้า ณ ห้องอาหาร

08.30 เช็คเอ๊าท์พร้อมนำท่านนั่งเรือกลับสู่สันเขื่อนแวะชมและเก็บภาพงามๆของ เขาสามเกลอ

“กุ้ยหลินเมืองไทย” สัญลักษณ์ของเขื่อนเชี่ยวหลาน  ทุกคนมาเยือนเขื่อนเชี่ยวหลานต้องมาถ่ายรูปจุดนี้กันทั้งหมดไม่งั้นไม่ถึงเขื่อเชี่ยวหลานกันครับ ล่องเรือชิลล์ๆอากาศไม่ร้อนมากเช้าๆ ทุกคนถ่ายรูปสวยๆกันเต็มที่

10.30 เดินทางถึงท่าเทียบเรือเทศบาลเขื่อนเชี่ยวหลาน พนักของ ไทยท็อปทัวร์ รอต้อนรับท่านอีกครั้งพร้อมทั้งบริการขนสัมภาระ กลับขึ้นรถพร้อมเดินทาง กันต่อครับ พาเที่ยวบ่อน้ำผุดสุราษฎร์ธานี “ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด” 

ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือไม่ไกลก็ถึงครับ ให้ทุกคนได้ชมความงามของธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์และเป็นป่าต้นน้ำ จริงๆถึงได้ชื่อว่า“ป่าต้นน้ำ” บ้านน้ำราด บ่อน้ำที่ผุดขึ้นจากเชิงเขาในป่าถูกพัฒนาให้มาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยเดินทางจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี มาถึงแยกอ.คีรีรัฐนิคมแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ต.บ้านทำเนียบมุ่งหน้าไปหมู่บ้านบ้านน้ำราดระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร อ๋อ แล้วก็ถนนทางเข้ามาที่นี่เป็นทางลูกลัง แนะนำให้มาด้วยรถกระบะ และไม่ควรมาช่วงหน้าฝน หากถามว่ารถเก๋งเข้าได้ไหม เข้าได้ค่ะ แต่จะเดินทางลำบากนิดหน่อย พอถึงลานจอดรถของป่าต้นน้ำแล้วต้องเดินเท้าเข้าไปอีก 200 เมตรจึงจะเจอกับบ่อน้ำผุดสีฟ้าใสอมเขียวมรกต ที่มีธรรมชาติรายล้อมรอบแสนอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ ให้คุณได้ลงไปแช่น้ำผ่อนคลายเรือนร่างไปกับน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาสไตล์ป่าต้นน้ำ

ไฮไลท์ของป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดแห่งนี้คือ บ่อน้ำผุดสีฟ้ามรกตใสมากๆ ราวกับกระจก ซึ่งเป็นบ่อน้ำจืดที่มีตาน้ำเป็นหัวใจหลัก พื้นบ่อเป็นทรายตะกอนหินปูนทำให้น้ำใสอยู่ตลอดเวลา บ่อน้ำไม่ลึกมากสามารถนั่งจุ่มเท้า หรือลงไปนั่งแช่นอนแช่ตัวได้สบายๆ แถมน้ำยังเย็นสบายตัวผ่อนคลายสุดๆ ไปเลยแหละ นอกจากลงเล่นน้ำได้แล้วยังสามารถพายเรือชมความสวยงามของคลองมะเลาะและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของป่าพุได้อีกด้วย เสร็จจากชมความงามกันแล้วถึงเวลาอาหารเที่ยงกันครับ วันนี้เราจัดกันให้ทานอาหารพื้นบ้านอีกมื้อครับ

13.30 รับประทานอหารกลางวันที่ในบาง

15.00 รับประทานอาหารเรียบร้อยเดินทางกลับสู่สนามบินนานาชาติสุราษฏร์ธานี ระหว่างทางสามารถแวะซื้อของฝากกกันได้ครับ

จบทริปที่สวยงามทั้งธรรมชาติ และวัฒนธรรม 
ทาง ไทยท็อปทัวร์ขอขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจให้ทีมงานได้บริการ และขอให้ทุกท่านถึงที่หมายอย่างปลอดภัยครับ