หมู่เกาะไข่ จังหวัดพังงา

เกาะไข่ ในประเทศไทยมีอยู่หลายแห่งชื่อนั้นอาจซ้ำเพราะทุกเกาะมีลักษณะคล้ายไข่ดาวในทะเลอันดามัน มีเกาะไข่อยู่สองแห่งล้วน แต่สวยงาม คือเกาะไข่ ตะรุเตากับเกาะไข่ จ.พังงา เกาะไข่ จ. พังงาเป็นเกาะขนาดเล็ก อยู่ในอ่าวพังงา มีด้วยกัน 3 เกาะคือ เกาะไข่ใน เกาะไข่นอก และเกาะไข่นุ้ย ซึ่งปัจจจุบันเกาะที่ สามารถท่องเที่ยว ได้มีเพียง 3 เกาะ คือ เกาะไข่นุ้ย เกาะไข่ใน และเกาะไข่นอก สามารถดำน้ำดูปะการังได้ทั้งสามเกาะ เกาะไข่นุ้ย เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำดูปะการัง และปลาชนิดต่างๆ ตรงจุดนี้สามารถพบปลาการ์ตูนได้อีกด้วย มีชายหาดเล็กๆ อยู่บนเกาะแต่ไม่อนุญาติถขึ้นไปบนชายหาด เกาะไข่นอก เป็นเกาะเล็กๆที่มีความสวยงามด้วยโขดหิน หาดทรายขาว น้ำทะเลใส รอบเกาะสามารถดำน้ำดูปะการังหลากชนิด มีปลาสวยงาม เกาะไข่นอกประกอบด้วย 2 หมู่เกาะ ซึ่งมีลักษณะคล้ายไข่ดาวกลางทะเล มีหาดทรายขาวบริสุทธิ์อยู่ด้านหน้าของ เกาะเหมาะแก่การ นอนอาบ แดด มีสันทรายเล็กๆ เชื่อมต่อไปถึงโขดหินแห่งหนึ่งบริเวณนี้เป็นจุดที่ดีในการดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น รอบเกาะ สามารถ ลงเล่นน้ำได้ น้ำใส แต่ต้องคอยระวังคลื่นลมแรงบ้างเป็นบางวัน ควรลงเล่นน้ำในด้านที่คลื่นลมสงบRead More

วัดฉลอง ภูเก็ต

วัดฉลอง ภูเก็ต วัดฉลอง หรือชื่อที่เรียกเป็นทางการ ก็คือ วัดไชยธาราม เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต ถ้าใครมา ภูเก็ตจะต้องมาแวะนมัสการ หลวงพ่อแช่ม แห่งวัดฉลอง เพื่อเป็นสิริมงคลแต่ตัวเอง เรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ กิตติศัพท์ในการรักษาโรค บุญญาบารมีและเมตตาธรรมที่สูงส่งของหลวงพ่อทำให้มีผู้เลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมาก เล่ากันว่าในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้นถึงกับมีผู้ที่รอปิดทองตามแขนและขาของท่านจนแลดูเหลืองอร่าม ไปทั่วราว กับปิดทองพระพุทธรูปและแม้ว่าหลวงพ่อแช่มจะมรณภาพเป็นเวลานับหนึ่งร้อยปีมาแล้วก็ตาม ชื่อเสียงเกียรติคุณ และบารมีของท่านก็อยู่ในความทรงจำของผู้คนสืบมา อีกทั้งที่วัดฉลองแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมี ประกาศเป็นที่ประดิษฐสถานของ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกา วัดฉลองแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใน ภูเก็ตอีกแห่งที่ ใครๆ ที่มาเที่ยวภูเก็ตจะต้องมาวัดแห่งนี้ สิ่งที่น่าสนใจในวัดฉลอง 1. นมัสการหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง เป็นที่รู้จักกันทั่วไป ซึ่งมีเรื่องรวมถึงความศักดิ์สิทธิ์ คุณงามความดีของหลวงพ่อแช่มแห่งวัดฉลอง เป็นที่พึ่งให้ แก่ชาวบ้าน ในครั้นการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ และเรื่องเล่าเกี่ยวกับไม้เท้าของท่านที่จิ้มบริเวณที่เป็นไฝ หรือปาน จะทำ ให้จางไปเอง ( เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ) นอกจากหลวงพ่อแช่มแล้วยังมีหลวงพ่อช่วง และหลวงพ่อเกลื้อม ซึ่งเป็นที่เคราพศรัทธาของชาวบ้านมาก ซึ่งท่านทั้งสองมีชื่อเสียงการปรุงสมุนไพร และรักษาโรค ถึงแม้ว่าปัจจุบัน ท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่ก็ยังมีชาวบ้านที่มีเรื่องทุกข์ร้อน ก็จะไปกราบไหว้ บนบานไม่ขาดสายRead More

เกาะมุก – ถ้ำมรกต จังหวัดตรัง

เกาะมุก – ถ้ำมรกต จังหวัดตรัง – ถ้ำมรกต จังหวัดตรัง นับเป็นจุดเด่นที่สุดในทะเลตรัง ลักษณะของเกาะทางด้านทิศตะวันตกส่วนใหญ่เป็นโขดหน้าผาหินสูงตระหง่านหันหน้าออกสู่ทะเล ทางฝั่งตะวันออกเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง ที่ยังคงวิถีชีวิตของชาวเกาะไว้อย่างดี สามารถเดินเที่ยวรอบเกาะได้ และทางด้านทิศตะวันตกของกเกาะมุก มีถ้ำมรกตหรือถ้ำทะเลซึ่งมีความงดงามตระการตาอย่างมาก จากปากทางเข้าถ้ำเป็นโพรงเล็ก ๆ การเข้าชมภายในถ้ำ จะต้องว่ายน้ำลอยคอเข้าไป ระยะทาง 80 เมตร บริเวณปากทางเข้าถ้ำแสงจากภายนอกจะสะท้อนกับน้ำภายในถ้ำทำให้เห็นน้ำเป็นสีเขียวมรกต ดูแปลกตาและมหัศจรรย์ในความสวยงามที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้าง เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเห็นหาดทรายขาวสะอาดล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน นั่งเล่นน้ำได้ เกาะมุกมีที่พักเอกชนบริการ การเดินทาง นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเกาะมุก สามารถเช่าเหมาลำเรือจากท่าเรือปากเมง อำเภอสิเกา ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที จังหวัดตรัง มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะเกาะ แต่ที่สวยงามและมีความแปลกจนนักท่องเที่ยวต้องไปดูให้เห็นกับตานั้นคือเกาะมุก (Koh Muk) เพราะที่เกาะมุกมีถ้ำมรกต (Morakot Cave) ถ้ำที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ความสวยงามให้แล้วยังแถมความแปลกด้วยอีกอย่าง เกาะมุกเป็นเกาะขนาดใหญ่ของจังหวัดตรัง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม มีหมู่บ้านชาวประมงอยู่บนเกาะ มีร้านอาหาร มีรีสอร์ตสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักบนเกาะ ส่วนการเดินทางบนเกาะนั้น มีรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และให้เช่าขับเอง ด้านที่หมู่บ้านชาวประมงและรีสอร์ตตั้งอยู่นี้มีชายหาดที่เล่นน้ำได้ 3 แห่ง ส่วนถ้ำมรกตRead More

เกาะเต่า-เกาะนางยวน-จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เกาะเต่า-เกาะนางยวน-จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะเต่า เป็นเกาะที่ตั้งโดดเดี่ยวในอ่าวไทย อยู่ห่างจากอำเภอเกาะพะงัน 45 กิโลเมตร ในอดีตกรมราชทัณฑ์ได้ใช้เป็นเรือนจำกักขังนักโทษการเมือง (กบฎบวรเดช) สมัยการปกครองของคณะราษฎร์ ปัจจุบันเป็นแหล่งดำน้ำติดอันดับโลก เกาะเต่า เป็นเกาะที่ตั้งโดดเดี่ยวในอ่าวไทย อยู่ห่างจากอำเภอเกาะพะงัน 45 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในอดีตกรมราชทัณฑ์ได้ใช้เป็นเรือนจำกักขังนักโทษการเมือง (กบฏบวรเดช) สมัยการปกครองของคณะราษฎร์ เกาะเต่ามีประชาชนมาอาศัยตั้งแต่ปี 2490 เป็นเกาะที่มีธรรมชาติและความสมบูรณ์ของชีวิตใต้ทะเล สวยงามด้วยแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก ปลาหลากชนิดสีสวย ๆ มากมายที่นักดำน้ำจะต้องนึกถึง และชายหาดที่มีหาดทรายขาวสวยสงบน่าพักผ่อนหลายหาด มีโรงเรียนสอนดำน้ำหลายโรงเรียนที่มักจะมีนักดำน้ำหน้าใหม่แวะเวียนมาเรียนกันอยู่เสมอ ช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวคือ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน บนเกาะมีบังกะโลหลายแบบหลายราคาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพัก การเดินทางบนเกาะเต่าสามารถเดินทางได้ทั้งทางเรือ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีบริการ 2 เส้นทาง คือ จากท่าเทียบเรือไปทางทิศเหนือถึงหาดทรายรี และไปทางทิศใต้ถึงอ่าวลึก สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเต่าและใกล้ ๆ เกาะเต่า แหลมหิน จปร. เป็นที่ตั้งของหินสลักพระปรมาภิไธยย่อของรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ริมหาดทรายรี เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของการเสด็จประพาสทางทะเล แหลมตาโต๊ะ มีจุดชมวิวบนยอดเขา สามารถมองทิวทัศน์ของอ่าวเทียนออกและอ่าวโฉลกบ้านเก่า มีสวนมะพร้าวสลับก้อนหิน หาดทรายรี เป็นชายหาดที่ยาวที่สุด มีทรายขาวRead More

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ประกาศเป็นอทุยาน แห่งชาติเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๒ แรกเริ่มใช้ชื่ออุทยานแห่งชาติหาดทรายรี ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นอุทยานแห่ง ชาติหมู่เกาะชุมพร          เมื่อวันที่๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๒ ครอบคลุมพื้นที่ ๑๙๘,๑๒๕ ไร่ มีชายหาด ทอดยาวกว่าร้อยกิโลเมตร ส่วนพื้นที่ทางทะเล ประกอบด้วยหมู่เกาะกว่า ๔๐ เกาะ ครอบคลุมพื้นที่ ตั้งแต่เกาะจระเข้ในเขตอำเภอปะทิว จดเกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เกาะเสม็ด เกาะมะพร้าว        เกาะมัตราเกาะทองหลาง       เกาะรังกาจิว ในเขตอำเภอเมือง และหมู่เกาะในเขตอำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโกจนถึงอ่าวท้องครกในเขตอำเภอหลังสวน บางเกาะ เป็นจุดดำน้ำ เช่น เกาะจระเข้ อยู่ทางตอนเหนือสุด ของอุทยานฯ ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่กลางป่าชายเลน มีอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเชื่อมด้วยสะพานไม้ทอดยาว และมีสะพานแขวน         เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เลียบคลองเข้าไปในป่าชายเลนมีทางเดินแยกหลายเส้นทางเหมาะสำหรับศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลนหรือจะพายเรือคยักชมป่าชายเลนเป็นกิจกรรมท่อง เที่ยวเชิงนิเวศที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสัมผัส ธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิดการดำน้ำลึกและน้ำตื้น จุดดำน้ำลึกและน้ำตื้นในท้องทะเลชุมพรมีอยู่ด้วยกันหลายจุดตามแนวปะการังในเกาะต่าง      ๆ มักจะพบปะการังดำ (Black Coral)ซึ่งเป็นสัตว์ในกลุ่มกัลปังหามากที่สุดในประเทศไทย   มีถ้วยทะเล (Corallimorph) พรมทะเล(Zooanthid) และดอกไม้ทะเลRead More

เกาะพยาม – ระนอง

เกาะพยาม – ระนอง ห่างจากปากน้ำระนองประมาณ 33 กิโลเมตร เป็นแหล่งปลูกมะม่วงหิมพานต์ หรือกาหยู ที่มีชื่อเสียงมากของจังหวัด มีชายหาดขาวสะอาด บรรยากาศสงบงามของเกาะพยาม เกาะใหญ่หนึ่งในสองเกาะของทะเลระนองนั้น มีเสน่ห์พอ ๆ กับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชุมชนชาวเลมอแกน ผู้ได้ชื่อว่าเป็นยิปซีทะเล ที่วันนี้พวกเขายังคงเลี้ยงชีพด้วยการจับสัตว์น้ำ รวมทั้งพานักท่องเที่ยวล่องเรือชมความงดงามในมุมต่าง ๆ ของเกาะพยาม น่าเที่ยว – ชม “วัดเกาะพยาม” ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานท่าเรือขึ้นไปทางเหนือ ตื่นตากับโบสถ์กลางทะเล ซึ่งบนหลังคาประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางลีลาหันหน้าออกสู่ทะเล ซึ่งเป็นจุดสังเกตเห็นแต่ไกลยามนั่งเรือมาสู่เกาะ – เดินเล่นที่ “อ่าวหินขาว” ที่โดดเด่นด้วยก้อนหินสีขาวก้อนใหญ่ตั้งเด่นอยู่ริมทะเล และเป็นที่ตั้งของ “ศาลพ่อตา หินขาว” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือจากตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า พ่อตาหินขาวมาเฝ้าฝันบรรพบุรุษของพวกเขาให้เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ – ดื่มด่ำบรรยากาศสงบร่มรื่นของอ่าวต่าง ๆ เช่น อ่าวไม้ไผ่ อ่าวกวางปีบ แหลมหิน และอ่าวมุก – ชมความงามของเกาะขาม ที่อยู่ห่างจากฝั่งอ่าวมุกไปไม่ไกล และในยามน้ำลดจะเกิดปรากฏการณ์ สันทรายเชื่อมสองเกาะเข้าด้วยกัน ซึ่งชาวบ้านมักจะเรียกเกาะขามว่า “เกาะปลาวาฬ” ตามรูปร่างลักษณะของเกาะนั่นเอง – พักผ่อนริมทะเลที่ อ่าวใหญ่Read More

บ้านคีรีวง – นครศรีธรรมราช

บ้านคีรีวง – นครศรีธรรมราช เป็นชุมชนเก่าแก่ที่อพยพไปอาศัยอยู่เชิงเขาหลวง ตำบลกำโลน อันเป็นเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดเขาหลวง ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่สงบสังคมแบบเครือญาติ อาชีพหลักคือการทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” บ้านคีรีวง (Baan Kiriwong) ได้รับการจัดให้เป็นแหล่งอากาศดีที่สุดในประเทศไทย หลังจากมีการตรวจวัดค่ามาตรฐานอากาศแล้วพบว่า อากาศที่คีรีวงมีสิ่งแปลกปลอมเพียง 9 ไมครอนต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งต่ำกว่ากว่าเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 300 ไมครอนต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร หมู่บ้านคีรีวงจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด เหตุที่ทำให้อากาศในหมู่บ้านแห่งนี้สูงกว่ามาตรฐานมากก็คือธรรมชาติที่สรรค์สร้าง โดยรอบของหมู่บ้านคีรีวงนั้นรายล้อมไปด้วยภูเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหลวง ซึ่งยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าเฟิร์นโบราณและกล้วยไม้หายาก และพืชนานาชนิด จุดสูงสุดของเทือกเขามีความสูงประมาณ 1,835 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งนับเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในภาคใต้ เปรียบเสมือนเป็นหลังคาของภาคใต้ และยังเป็นป่าต้นน้ำของลำธารอีกหลายสาย ซึ่งหนึ่งในนั้นได้ไหลผ่านหมู่บ้านคีรีวง และเส้นทางผ่านหมู่บ้านคีรีวงแห่งนี้ยังเป็นอีกเส้นทางที่ใช้ขึ้นไปสู่เทือกเขาหลวง รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว เรียนรู้และรื่นรมย์ไปกับชุมชนเข้มแข็งที่เป็นต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขาและสายน้ำ การันตีคุณภาพจากรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประจำปี พ.ศ. 2541 นอกจากนี้ยังได้รับยกย่องว่าเป็นแหล่งอากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยอีกด้วย ภายในหมู่บ้านคีรีวง (Kiriwong village) เต็มไปด้วยกิจกรรมน่าสนใจที่เปิดโลกแห่งการเรียนรู้ใหม่ ๆ ให้คุณได้มากมาย และยังมีน้ำตกอยู่ใกล้ ๆ อีกหลายแห่ง กิจกรรมน่าสนุก –Read More

อุทยานแห่งชาติเขาสก

อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี สัมผัสผืนป่าที่มีความยิ่งใหญ่มากเป็นลำดับต้น ๆ ของภาคใต้ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อำเภอบ้านตาขุน อำเภอพนม และอำเภอคีรีรัฐนิคม ที่นี่ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2537 ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 461,712 ไร่ โดยมีสภาพทั่วไปเป็นภูเขาดินและภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อนและดูแปลกตาด้วยแนวหน้าผาสูงชัน ขณะเดียวกันทางด้านทิศเหนือคือที่ตั้งของเขื่อนรัชชประภา ที่มีบรรยากาศของทะเลสาบเหนือเขื่อนสวยงาม เสียจนมีผู้เปรียบเปรยว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย อุทยานแห่งชาติเขาสกเต็มไปด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวมากมาย โดยกิจกรรมที่น่าสนใจนั้น ได้แก่ การล่องแก่ง เดินป่า นั่งช้าง ดูนก และเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ไฮไลต์แห่งอุทยานฯ สำหรับนักท่องธรรมชาติ การเดินป่าเขาสกเพื่อตามหาพืชพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่ เป็นเหมือนความฝันที่พวกเขาหวังว่าจะต้องทำให้เป็นจริงสักครั้ง นั่นคือการตามหา “บัวผุด” หรือกระโถนฤๅษี ดอกไม้ขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางของตัวดอกประมาณ 10-25 นิ้ว โดยบัวผุดนั้นมักขึ้นอยู่ตามพื้นดิน จะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงมกราคมณ 10-25 นิ้ว โดยบัวผุดนั้น ลักษณะเด่น -เป็นผืนป่าดิบชื้นใหญ่ที่สุดในภาคใต้ -มีเขื่อนเป็นตัวกั้นแหล่งน้ำทำให้เกิด เกาะหินปูน ในทะเลสาบ -กิจกรรมที่นิยม คือ ดูดอกบัวผุด ล่องแคนู ล่องห่วงยาง –สำหรับนักท่องธรรมชาติ การเดินป่าเขาสกเพื่อตามหาพืชพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่ เป็นเหมือนความฝันที่พวกเขาหวังว่าจะต้องทำให้เป็นจริงสักครั้งRead More

เกาะหัวใจมรกต ทะเลพม่า

 เกาะหัวใจมรกต หรือ“เกาะค๊อกคอม”( Cock’s Comb Island )  ฟังชื่ออาจแปลกใจเพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน เพราะเกาะนี้อยู่ทางตอนใต้ของประเทศพม่าติดกับจังหวัดระนองอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดระนองเพียงแค่ประมาณ 81.2 กิโลเมตรเท่านั้น และเป็นเกาะที่อยู่ในทะเลอันดามันติดกับเกาะสุรินทร์ในประเทศไทย ด้วยรูปทรงเกาะที่บังเอิญเหมือนรูปหัวใจ ทำให้ทุกคนตกหลุมรักทันทีตั้งแต่แรกเห็น เกาะหัวใจมรกตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก การเดินทาง สามารถเดินทางจากท่าเรือ จ.ระนอง และต้องซื้อทัวร์เช้าไป-เย็นกลับ (ไม่สามารถเดินทางไปเองได้) เพราะต้องมีการทำเรื่องการข้ามแดนก่อน แต่ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต ใช้แค่บัตรประชาชนทำผ่านบริษัททัวร์จะดีที่สุด  

เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล

เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล จุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะ คือ ความเป็นธรรมชาติของปะการังรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายละเอียดนิ่มเหมือนแป้ง มีอ่าวที่สวยงามชื่อ “อ่าวพัทยา”และ “หาดชาวเล” มีลักษณะโค้งเว้า ทรายขาวละเอียด ซึ่งทั้งสองหาดนี้สามารถเดินถึงกันได้โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที  มัลดีฟส์เมืองไทยที่จะทำให้คุณหัวใจละลายไปในพริบตา เพียงแค่เห็นน้ำทะเลใสแจ๋วจาก “อ่าวพัทยา” อันเป็นจุดจอดเรือนักท่องเที่ยว ซึ่งคุณจะได้ค้นพบว่าที่นี่คือสรวงสวรรค์ของคนรักทะเลอย่างแท้จริง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันนี้เกาะหลีเป๊ะจึงคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย เพราะความเป็นเกาะที่มีทุกสิ่งที่น่ารื่นรมย์อย่างครบรส ตั้งแต่ท้องฟ้าสีครามใสราวกระจกใต้ผืนฟ้าใส ถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านช็อปปิ้งและความสนุกที่มาเติมสีสันให้ชาวเกาะ รีสอร์ทน่ารักที่ตั้งอยู่เรียงรายริมหาด รวมทั้งวิถีชีวิตชาวเลที่อาศัยบริเวณ “หาดชาวเล” ซึ่งในวันขึ้น 13-15 ค่ำ เดือน 6 และ 12 ชาวบ้านแถบนี้จะจัดพิธิลอยเรือตลอดสามวันสามคืน โดยนำเรือที่ต่อด้วยไม้ระกำลอยสู่ทะเล เป็นการเสี่ยงทายโชคชะตาในการประกอบอาชีพประมงของพวกเขา และทั้งอ่าวพัทยาและหาดชาวเลนี่เองได้กลายเป็นจุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งสามารถเดินถึงกันได้เพียงใช้เวลา 15 นาทีเท่านั้น กิจกรรมน่าทำ – เล่นน้ำหรือดำน้ำชมปะการังน้ำตื่น ซึ่งสามารถทำได้ทั่วทั้งเกาะ แต่บางพื้นที่อาจต้องคอยระวังจุดที่น้ำตื้นมาก ๆ เข้าไว้เพราะอาจโดนปะการังที่มีความแหลมคมบาด รวมทั้งผจญกับหอยเม่นที่มีหนามแหลมคมรอบตัว – เดินชมวิถีชีวิตของชาวเลบนหาดชาวเล ชาวเลกลุ่มนี้เป็นชนเผ่าอูรักลาโว้ย ซึ่งส่วนใหญ่ทำอาชีพประมงรอบเกาะ –Read More